ชกไม่มีมุม
วงค์ ตาวัน
มีการจัดอันดับเมืองที่สภาพการจราจรติดขัดหนาแน่นที่สุดในโลกอยู่เป็นระยะๆ และกรุงเทพมหานครของไทยเราได้กลายเป็นแชมป์เมืองที่มีปัญหารถเป็นอัมพาตบนท้องถนนเป็นอันดับ 1 ของโลกไปแล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ระบุว่าเป็นอันดับ 2 ของโลก
จะเป็นอันดับ 1 หรืออันดับ 2 ก็น่ากลัวไม่แพ้กัน
เพราะทั่วโลกมีอยู่เกือบ 200 ประเทศ แต่เราอยู่ในอันดับแชมป์หรือรองแชมป์ของชาติที่มีปัญหา เป็นเรื่องน่าตกใจไม่น้อย
ทั้งมีผลต่อการสูญเสียเงินตรามหาศาล ตัวเลขการผลาญน้ำมันสูงลิบ
โยงไปถึงความล่าช้าของธุรกิจการงาน
เป็นภาพลบสำหรับการท่องเที่ยว เสียหายถึงรายได้ เข้าประเทศ
ต่อเนื่องถึงสภาพอากาศอันเลวร้ายที่ย่อมมีผลกระทบต่อชีวิตของพวกเราเอง!
แน่นอนว่าการแก้ปัญหาจราจรในกทม.เป็นเรื่องใหญ่มาก พูดกันมายาวนาน แต่ยังไม่มีใครสามารถคลี่คลายวิกฤตนี้ได้
เพราะต้องแก้กันทั้งระบบ จะแก้เพียงจุดใดจุดหนึ่งไม่มีทางสำเร็จ
แต่การบรรเทาปัญหาในบางส่วน หรือการแก้ในเฉพาะหน้าทุกเช้าทุกเย็นนั้น ย่อมขึ้นกับการทำหน้าที่ของตำรวจจราจรแห่งนครบาล
ทุ่มเทกำลังจราจรลงไปบนท้องถนน ตามแยกต่างๆ มากน้อยเพียงใด!
ระดับผู้บัญชาการตำรวจนครบาลหรือรองผู้บัญชาการ ฝ่ายจราจร ลงมาควบคุมสั่งการจริงจังแค่ไหน
หรือการคิดค้นมาตรการตามถนนสายต่างๆ ที่อยู่ในอำนาจและความรับผิดชอบของตำรวจนครบาลนั้น มีออกมาบ้างหรือไม่!?!
เราจะพบว่า ในช่วงก่อนหน้านี้ ในบางยุคบางสมัย จะมีมือแก้ปัญหาจราจรระดับนายพลในนครบาลที่เชี่ยวชำนาญประจำการ
ทั้งบัญชาการในทุกเช้าเย็นหรือตลอดเวลาที่เกิดวิกฤต ไม่ใช่ปล่อยให้แต่ละสน.แก้ปัญหากันไปตามมีตามเกิด
หรือถนนสายนั้นสายนี้ จำเป็นต้องจัดวันเวย์ทูเวย์อย่างไร จะมีแผนปฏิบัติการกู้วิกฤตออกมาเป็นระยะๆ
แต่ช่วงระยะหลัง ลักษณะจริงจังแบบนี้ แทบไม่ค่อยเห็น
นั่นอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้กรุงเทพฯ ขยับอันดับขึ้นไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นแชมป์รถติดแห่งโลกไปในที่สุด
จึงต้องฝากพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ที่เคยผ่านงานผบช.น.มาก่อน
ตอนนี้กำลังจัดโผนายพลประจำปี ซึ่งคาดว่าจะเข้าก.ตร.ในช่วงสิ้นเดือนนี้
คงต้องผ่าตัดจัดทัพนายพลของนครบาลครั้งใหญ่
โดยคงต้องเอาภารกิจแก้ไขจราจรมาเป็นอันดับ 1 สำหรับการแต่งตั้งในหน่วยนี้!